โทรศัพท์ 1358

HEV VS PHEV
HEV vs PHEV: รถยนต์ไฮบริดแบบไหนเหมาะกับคุณ? ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว "รถยนต์ไฮบริด" กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดน้ำมันและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันรถยนต์ไฮบริดมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) แม้จะดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองมีความแตกต่างที่สำคัญ โดยเฉพาะในด้านการใช้งานและระบบการชาร์จพลังงาน รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) รถ HEV คือรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง เครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ HEV ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ทั่วไป รถยนต์ HEV มีการเปลี่ยนพลังงานจากการเบรกและการชะลอความเร็วมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บในแบตเตอรี่ ทำให้ไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ จุดเด่นของรถยนต์ HEV ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปล่อยไอเสียน้อยลงกว่ารถยนต์ทั่วไป มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ ข้อจำกัดของรถยนต์ HEV ค่าบำรุงรักษาสูง แบตเตอรี่ราคาสูง ขับทางไกลอาจไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะระบบจะดึงพลังงานไฟฟ้ามาช่วยในระยะทางสั้น ๆ และอัตราความเร็วต่ำเท่านั้น ตัวอย่างรถ HEV Honda Accord Hybrid, Toyota Camry Hybrid, Toyota Alphard Hybrid รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle: PHEV) รถยนต์ Plug In Hybrid คล้ายรถยนต์ HEV โดยเพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จเพื่อให้ชาร์จไฟจากภายนอกได้ ส่วนระบบการทำงานยังคงผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนเดิม จุดเด่นของรถยนต์ PHEV ประหยัดน้ำมัน ชาร์จไฟกับปลั๊กไฟที่บ้าน ด้วยชุดอุปกรณ์โดยเฉพาะ หรือชาร์จที่สถานีชาร์จไฟฟ้าข้างนอกได้ กำลังขับเคลื่อนแรงกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปทั่วไปและรถยนต์ HEV มีระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ (Regenerative Braking) ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า 100% ระยะสั้น ๆ ได้ ข้อจำกัดของรถยนต์ PHEV ราคาเริ่มต้นสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป แบตเตอรี่ราคาสูง ระยะการขับขี่น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป ตัวอย่างรถ PHEV Mercedes-Benz Plug-in Hybrid, Volvo XC40 Recharge, Mitsubishi Outlander PHEV แหล่งข้อมูล : https://www.heygoody.com/th/blogs/motor/how-many-types-of-ev-car/
02 พ.ค. 2568
AI กับการเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยุคใหม่
AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบการทำงานของมนุษย์ เช่น การเรียนรู้ การวางแผน และการแก้ไขปัญหา โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ ในอุตสาหกรรม AI ถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบอัตโนมัติ เช่น Controllers, Sensors และ Robotics เพื่อรวบรวมข้อมูลการทำงานและนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประโยชน์ของการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรม มีดังนี้ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน AI ช่วยสนับสนุนงานที่มีลักษณะซ้ำซาก เช่น การเก็บข้อมูลหรือการเปรียบเทียบผลการตรวจวิเคราะห์ ช่วยให้มนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สามารถดำเนินการต่างๆ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการทำงานอย่างมหาศาล ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ธุรกิจต่างๆ นำ AI มาใช้ในงานบริการ เช่น Chatbot ที่สามารถตอบคำถามและแนะนำข้อมูลเบื้องต้นแก่ลูกค้าได้ตลอดเวลา บันทึก ตรวจสอบ และจัดเก็บข้อมูลอย่างอัตโนมัติ AI ช่วยบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดภาระการทำงานของมนุษย์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จัดเก็บ บำรุงรักษาและตรวจจับข้อบกพร่องอย่างแม่นยำ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแจ้งเตือนหรือดำเนินการแก้ไขก่อนที่ความเสียหายจะขยายตัว แหล่งข้อมูล : https://th.cc-link.org/th/cclink/article/how-is-ai-involved-in-automation-industry
28 เม.ย. 2568
กัญชง (Hemp) เส้นใยแห่งอนาตต
กัญชง (Hemp) เส้นใยแห่งอนาคต ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ของประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่น เส้นใยกัญชงยังสามารถป้องกันรังสี UV และทนต่อความร้อนได้ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในยุคโลกร้อน อีกหนึ่งจุดแข็งของกัญชงคือความสามารถในการย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรต่ิสื่งวดล้อม ทำให้กัญชงกลายเป็นวัตถุดิบที่ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงวัสดุชีวภาพ กัญชงถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เช่น Hempcrete (ปูนกัญชง) ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างที่แข็งแรงและมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนในบ้าน อุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่น ผลิตเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม กระเป๋า รองเท้า และสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมยานยนต์ นำเส้นใยกัญชงมาใช้ผลิตวัสดุภายในรถยนต์ เช่น แผงประตูหรือแผงหน้าปัด ที่ทำจากวัสดุชีวภาพผสม (bio-composites) อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ผลิตเป็นถุงช้อปปิ้งแบบใช้ซ้ำ กระดาษห่ออาหาร กล่องบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ แทนการใช้พลาสติก อุตสาหกรรมชีวภาพและพลังงาน พัฒนากัญชงเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) และเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น เอทานอล แหล่งที่มา : https://textilessquare.org/web/trend-highlight/detail.php?detailid=146 https://skycannabisthailand.com/hemp-fiber/ https://skycannabisthailand.com/hemp-industry/ https://www.bangkokbiznews.com/tech/innovation/1027256
24 เม.ย. 2568
Medical Hub อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub เป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพในเชิงของการท่องเที่ยวต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ โดยวางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ภายในระยะ 10 ปี นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2559 –2568 เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้สอดคล้องกับแผนและนโยบายของประเทศ ประกอบด้วย 4 ผลผลิตหลัก ได้แก่ ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) เช่น บริการนวดไทยเพื่อสุขภาพ / สปาเพื่อสุขภาพ บริการ Medical Spa บริการแบบ Health Resort บริการแบบพำนักระยะยาวเพื่อสุขภาพ ศูนย์กลางบริการสุขภาพ (Medical Service Hub) เช่น การบริการการรักษาเฉพาะทาง การตรวจสุขภาพทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่งและเสริมความงาม บริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub) เช่น การพัฒนาทางด้านการศึกษา การจัดการศึกษาระดับแรงงานมีฝีมือ การจัดประชุมวิชาการนานาชาติ ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) เช่น การพัฒนายาแผนปัจจุบัน อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางค์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มา : https://thaimedhub.hss.moph.go.th/background-medicalhub/
23 เม.ย. 2568