กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเดินหน้าพัฒนาผู้ประกอบการเข้าสู่ “เอสเอ็มอี4.0” เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการแข่งขันและสร้างความยั่งยืน... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/economic/622789
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปี 61 กสอ. เน้นการสร้างเสริมศักยภาพให้แก่เอสเอ็มอีในลักษณะของการบูรณาการการทำงาน ระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคาดหวังว่าเอสเอ็มอีไทยจะปรับตัวเข้าสู่เอสเอ็มอี 4.0 และมีกระบวนการผลิตมีต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงจะทำอย่างไรให้เอสเอ็มอีมีการใช้เครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไอที เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ จนสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
“กรมฯเน้นพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกระดับในประเทศ เพื่อสร้าง ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อัจฉริยะ หรือ สมาร์ทเอสเอ็มอี เน้นการ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการเป็นผู้ประกอบการยุค 4.0 ด้วยการฝึกอบรมเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ เสริมแกร่งด้านนวัตกรรม และดิจิทัล รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพสินค้า การเพิ่มช่องทางการค้า การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้นต่อไป”
นอกจากนั้นทางกรม ยังมีนโยบายสนับสนุนและพัฒนาเอสเอ็มอีภายใต้กลยุทธ์หลัก 4 เครื่องมือกับ 1 กลยุทธ์ ประกอบด้วย 1. การให้บริการด้านการพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศ, การพัฒนาระบบการผลิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต, ลดการใช้แรงงานในกระบวนการผลิต และ พัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึง1กลยุทธ์คือการมุ่งพัฒนาการรวมกลุ่มของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา กสอ. ได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม หรือศูนย์ไอทีซี ขึ้น 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ในการให้บริการคำปรึกษาแนะนำทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต รวมถึงยังให้บริการเครื่องจักรกลางที่ได้รับความร่วมมือจากองค์กรขนาดใหญ่ให้ยืมเครื่องจักรที่ทันสมัยมาให้บริการแก่เอสเอ็มอีสามารถเข้าไปใช้งานได้ พร้อมประสานความร่วมมือไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อขยายบริการศูนย์ไอทีซี ไปยังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และในอนาคตอีกด้วย
ด้านของเงินลงทุน ทางกรมฯ ได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการ ผ่าน “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท” เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ รวมถึงเอสเอ็มอี รายย่อย อีกกว่า 8,000 ล้านบาท พร้อมให้ความรู้เกี่ยวการบริหารธุรกิจ และบริหารเงินให้เป็นระบบ เช่น การจัดทำบัญชีเดียว รวมถึงการเพิ่มช่องทางการตลาดด้วยการใช้ไอที หรือ อีคอมเมิร์ซ เป็นต้น... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/economic/622789